วัฒนธรรมราษฎร์ |
วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความเป็นไปที่ก่อให้เกิดแบบแผนปฏิบัติหรือวัฒนธรรมไทยนั้น เริ่มต้นที่หน่วยเล็กที่สุดในสังคม คือ ปัจเจกบุคคลไปถึงกลุ่มคน |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อพัฒนาภาพชีวิตของราษฎรไทย |
|
โครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากพระราชกรณียกิจ พระราชประสงค์และพระราชดำริของพระองค์ท่าน เพื่อพัฒนางานวัฒนธรรม มีมากมายสุดที่จะนำมากล่าว และขอนำเสนอพอสังเขป ดังนี้ |
พัฒนาคน |
1. บทบาทต่อเด็กและเยาวชน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเมตตาอย่างยิ่งต่อเด็กและเยาวชน โดยถือเอากิจการเพื่อเด็กและเยาวชนเป็นหัวใจของชาติในอนาคต การประทานปริญญาบัตร โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ซึ่งเคยพระราชปรารภว่า การเรียนรู้ในเรื่องราวและวิชาการสาขาต่างๆ โดยกว้างขวางเป็นเหตุให้เกิดความรู้ ความคิด และความฉลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับชีวิต ช่วยให้บุคคลสามารถสร้างประโยชน์สุข สร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ตนเองทั้งแก่สังคม และบ้านเมืองอันเป็นที่พึงอาศัยได้ ทุกคนจึงควรมีโอกาสที่จะศึกษาหาความรู้ได้ตามความประสงค์และกำลังความสามารถโดยทั่วกัน |
2. บทบาทต่อสตรี แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชจะทรงมีพระราชกรณียกิจที่ต้องเร่งปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาประเทศอยู่มากมาย จนแทบไม่น่าเชื่อว่าปัจเจกบุคคลผู้หนึ่ง จะสามารถแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นนั้นไว้ได้ กระนั้นพระองค์ก็ยังไม่ละเลยบทบาทเกี่ยวกับการพัฒนาสตรี แม้จะมิได้ทรงดำเนินการเอง ก็ทรงมอบหมายให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระราชธิดาทรงรับพระราชภาระแทน ดังเช่นโครงการศิลปาชีพ โครงการอาชีพเสริมแก่กลุ่มสตรี ซึ่งมีพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถตอนหนึ่งว่า " จุดเริ่มต้นของศิลปาชีพนั้นมาจากพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยมีพระราชประสงค์สนับสนุนให้ราษฎรในหมู่บ้านที่ห่างไกลจากการคมนาคม มีการพัฒนาตนเองและพึ่งตนเองได้ในหมู่บ้าน เรียกกันว่า หมู่บ้านเบ็ดเสร็จ ทรงช่วยเหลือทางด้านแหล่งน้ำ ด้านการเกษตรให้ชาวบ้านสามารถปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ มีธนาคารข้าวในหมู่บ้าน ข้าพเจ้าก็ไปช่วยด้านครอบครัว ให้ชาวบ้านทอผ้า เย็บผ้า เป็นช่างไม้ ช่างแกะสลัก ผลิตเครื่องปั้นดินเผาและทำงานฝีมือต่างๆ " |
3. บทบาทต่อชาวเขา ชาวไทยภูเขาเป็นชนกลุ่มน้อยที่อพยพเข้ามาอยู่ในเขตแดนไทยกว่าร้อยปีมาแล้ว มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง และเนื่องจากตั้งหลักแหล่งอยู่บนยอดดอยที่สลับซับซ้อน จึงห่างไกลจากอารยธรรมของสังคมเมือง และยากที่รัฐจะเข้าไปควบคุมวิถีความเป็นอย |
|
พัฒนาสังคม |
- ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศเกษตรกรรม สังคมไทยเป็นสังคมเกษตรมาแต่โบราณ การพัฒนาการเกษตรจึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ได้รับการบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาทุกฉบับ แต่กระนั้นเกษตรกรไทยก็ยังต้องเผชิญปัญหาต่างๆ เช่น ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ จากการเร่งรัดพัฒนาชนบทในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาสภาพดินฟ้าอากาศ และปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เมื่อประชากรที่อยู่ในภาคเกษตรอันเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในภาวะทุกข์ร้อน ก็ย่อมเป็นอุปสรรคต่อความเจริญงอกงามของงานวัฒนธรรมที่ขึ้นกับวิถีความเป็นอยู่ของคนในสังคม ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทุ่มเทพระวรกายในด้านการเกษตรมากเป็นพิเศษ ทรงเข้าใจข้อเท็จจริงอันเป็นเงื่อนไขในการพัฒนาประเทศ |
พระราชดำริที่เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ คือ ทรงเน้นในเรื่องการค้นคว้า ทดลอง และวิจัย โดยทรงอุทิศพื้นที่บางส่วนในอาณาเขตพระราชฐานสวนจิตรลดาเป็นสถานีค้นคว้าวิจัยทางเกษตรทุกด้านมาตั้งแต่ปี 2505 ทรงศึกษากลไกการตลาด ศึกษาหลักการรวมกลุ่มในรูปสหกรณ์ เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง เน้นการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติมากที่สุดพึ่งพิงธรรมชาติเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และทรงโปรดที่จะแนะนำเกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยีท้องถิ่นที่ไม่ซับซ้อน ทั้งหมดนี้ก็เพราะพระราชประสงค์ให้เกษตรกรพึ่งตนเองได้ในสภาพ "พออยู่-พอกิน" เช่น โครงการธนาคารข้าว โครงการสวนสาธิต โครงการโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา โครงการตั้งฟาร์มโคนม การเกษตรทฤษฎีใหม่ |
- ด้านการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาทั้งในและนอกระบบโรงเรียนจำนวนมาก เช่น จัดตั้งสถานศึกษา ส่งเสริมวิชาชีพครู ทุนพระราชทาน |
- ด้านการศาสนา ในสังคมพุทธเกษตรแบบไทยนั้น ศาสนาเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการกำหนดบทบาทของงานวัฒนธรรม เพราะศาสนาเป็นวิถีประพฤติกรอบศีลธรรมจรรยา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของคนทั้งชาติ "ในประวัติศาสตร์ไทย พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะ รัฐธรรมนูญทุกฉบับก็ได้ระบุไว้ชัดแจ้ง ดังเช่นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521 มาตรา 7 บัญญัติว่า "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมทำนุบำรุงศาสนาเฉกเช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในอดีตดังนี้ |
|